ทีมงาน Beritamuslim และ Makan Halal Guide ได้มีโอกาสใช้บริการนำเที่ยว ของ อฟีฟทัวร์ / Afeef Tours ทริปนี้มีโปรแกรมเที่ยวที่ เวียดนามกลาง เมืองดานัง ฮอยอัน 3 วัน 2 คืน บินจากสุวรรณภูมิกรุงเทพถึงสนามบินดานังใช้เวลาประมาณ เกือบๆ 1.30 ช.ม. แอดขอบอกเลยว่าไปกับอฟีฟทัวร์ อิ่มทั้งบรรยาย อิ่มทั้งอาหาร บริการเป็นกันเองฟินสุดๆ

หลังจากถึงสบามบินรับกระเป๋าเสร็จ คุณชารีฟ หัวหน้าทัวร์ของอฟีฟทัวร์ก็พาไปพบกับไกด์นำเที่ยวชาวเวียดนาม โดยสถานที่แรกหลังจากออกจากสนามบิน ก็คือร้านอาหาร BELANGABAY เพื่อทานมื้อเที่ยง เป็นร้านอาหารฮาลาลในโรงแรมห้าดาว ในตอนแรกไกด์บอกว่าอาหารเวียดนามจะมีรสชาติจืดๆ แต่ร้านนี้ถูกปากมุสลิมไทยอย่างมาก ทุกเมนูอร่อยกลิ่นหอม สมกับเป็นร้านอาหารในโรงแรมห้าดาว 

ต่อมาก็ได้ไปชมเมืองเก่าฮอยอัน เป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมของ ประเทศเวียดนาม จีน และญี่ปุ่นผสมกันโดยที่นี่ได้รับฉายาว่า เป็นเมืองมรดกโลกสีมัสตาร์ด โดยจุดเช็คอินของที่นี่ก็คือสะพานญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ความรู้สึกว่ามันคือเมืองเก่าและมีประวัติศาสตร์ หลังจากที่ได้เดินชมบรรยากาศและถ่ายรูปเสร็จแล้วก็ถึงช่วงเย็น ต้องบอกก่อนว่าที่นี่ไม่มีมัสยิด ทางคุณชารีฟ ได้เตรียมผ้าเต้นท์สำหรับปูละหมาดให้มุสลิมทุกคนได้ละหมาดกันได้ด้วย เห็นแล้วรูปสึกประทับใจสำหรับการบริการและเตรียมความพร้อมของอฟีฟทัวร์จริงๆ

จากนั้นก็ไปพายเรือกระด้งต่อ จริงๆ แล้วเราไปช่วงเย็นเกินไปหน่อย พนักงานที่พายเรือกระด้งได้กลับบ้านกันหมดแล้ว แต่พวกเขาก็น่ารักมากๆ พอรู้ว่ามีทัวร์มาเที่ยวเขาก็กลับมาเพื่อที่จะบริการนักท่องเที่ยว เอนเตอร์เทรนร้องเพลงเล่น พายเรือวนแม่น้ำ ทำให้ลูกทัวร์ของอฟีฟทัวร์ได้ร่วมทำกิจกรรมอย่างสนุกสนานกันไป

ก่อนจะเข้าโรงแรมที่พักก็ได้ไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารสไตล์อินเดีย Family Indian อาหารอินเดียจะมีกลิ่นเครื่องเทศแรงๆ ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่นิยมสำหรับคนไทยมากนัก สำหรับแอดมิน อาหารร้านนี้ถือว่าใช้ได้คนไทยกินได้อร่อยกลิ่นไม่แรงจนเกินไป 

แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบจริงๆ คุณชารีฟก็ได้เตรียมพัดเผ็ดปลาดุกและเนื้อสวรรค์จากไทยมาให้ลูกทัวร์ได้กินกันด้วยเพราะกลัวว่าอาหารอาจไม่ถูกปาก นี้เป็นอีกหนึ่งบริการที่ทำให้เราได้รู้ว่าอฟีฟทัวร์เขาใส่ใจลูกทัวร์มากๆ

หลังจากนั้นก็เข้าที่พักในโรงแรมดานัง โดยชารีฟได้ให้เวลาอิสระกับทุกคนในช่วงเวลากลางคืนใครที่อยากจะไปถ่ายรูปบรรยากาศของสะพานมังกรริมแม่น้ำฮานตอนกลางคืน ก็ไปถ่ายรูปได้เต็มที่

วันที่สองของทริป ในช่วงเช้าเราได้ไปถ่ายรูปกันชายหาดหมี่เค ได้ชื่อว่าเป็นชายหาดที่สวยงามที่สุดในเวียดนามเลย  แม้อากาศจะร้อนไปหน่อยแต่ก็ได้รูปสวยๆ กันเยอะเลย  ที่ประทับใจมากที่สุด คือบ้านเมืองเขาสะอาดมาก จะเดินไปทางไหนก็ไม่เจอขยะเลย

และไปต่อที่ร้านขายผลิตภัณฑ์เยื่อไม้ไผ่ ที่นี่จะขายผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากเยื่อไม้ไผ่ ก่อนที่พนักงานจะพานักท่องเที่ยวไปช็อปปิ้ง พนักงานจะแนะนำตัวสินค้าในบางส่วนก่อน เหมือนเซลล์ขายของนั่นแหละ ซึ่งหลายๆ คนก็ได้ซื้อของฝากกันจากที่นี่หลายอย่างเลย (พนักงานส่วนใหญ่พูดภาษาไทยได้นะ)

และแล้วก็ถึงเวลาช่วงไฮไลท์ของทริปนี้ นั่นก็คือนั่งกระเช้าลอยฟ้าสู่บาน่าฮิลล์ ทริปนี้เราได้มีโอกาสได้พักที่โรงแรมบนบาน่าฮิลล์ จากจุดที่นั่งกระเช้าไปถึงที่หมายใช้เวลาประมาณ 20 นาที ขอบอกก่อนว่ากระเช้าสูงมาก เราได้เห็นบรรยากาศของเวียดนามกลางเป็นภาพกว้าง ผ่านภูเขาและน้ำตก ชมธรรมชาติก่อนกระเช้าลอยขึ้นถึงบาน่าฮิลล์ เนื่องจากที่นี่อยู่บนยอดเขาที่สูงจึงทำให้ได้รับอากาศที่เย็นสบาย สายลมเย็นฉ่ำ ท้องฟ้าสีครามสวยสดงดงาม มีหมอกจางๆ พอตกกลางคืนถึงขั้นหนาวเลย

สิ่งก่อสร้างอาคารของบาน่าฮิลล์ออกแบบสไตล์ยุโรป เหมือนยกประเทศฝรั่งเศษมาวางไว้บนยอดเขาที่เวียดนามเลยก็ว่าได้ จุดเด็นบนบาน่าฮิลล์ที่ไม่ว่าใครๆ ก็ไปถ่ายรูปเช็คอินนั้นก็คือสะพานมือ ซึ่งเราจะได้เห็นภาพท้องฟ้าแบบ 360 องศา

นอกจากสะพานมือแล้ว บนบาน่าฮิลล์ยังมีสวนดอกไม้ที่สวยงามให้เดินชมและถ่ายรูปกันแบบฟินๆ เลย จุดนี้บอกเลยสาวๆ ต้องไปอย่าพลาดเด็ดขาด

ยังไม่พอ ใครที่เบื่อๆ กับการเดินเล่นเฉยๆ ที่นี่ก็มีเครื่องเล่นอีกที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้บันเทิงสนุกสนานกันอย่างเต็มที่ บอกเลยว่าทริปนี้ ฟินเกินคำบรรยาย 

อีกหนึ่งอย่างที่ต้องบอกเพราะว่าทริปนี้เป็นทริปทัวร์ฮาลาล ซึ่งเรื่องอาหารการกินอาจจะไม่สะดวกกับมุสลิมมากนัก แต่คุณชารีฟก็ได้ผสามงานกับไกด์นำเที่ยวให้พูดคุยกันทางร้านอาหารให้คัดสรรแยกประเภทอาหารที่มุสลิมสามารถทานได้แบบสบายใจ แม้ว่าสถานที่เราไปนั้นไม่ใช่แห่งฮาลาล แต่ก็อุ่นใจได้เมื่อไปกับอฟีฟทัวร์ 

วันสุดท้ายที่ต้องจากลาช่วงเช้าหลังจากทานอาหารเสร็จเราได้มีโอกาสเดินเล่นและได้ไปในอาคารที่พึ่งสร้างเสร็จใหม่ ทัวร์เราเป็นทัวร์แรกๆ ที่ได้เข้าไปใช้บริการรับชมภาพ 4D หลังจากลงมาจากบาน่าฮิลล์แล้วก็แวะมาที่บ้านแกะสลักหินอ่อน ที่นี่จะขายของจำพวกหินแกะสลักขายพวกงานศิลปะ เครื่องประดับ อะไรประมาณนั้น

ก่อนที่จะกลับประเทศไทยทริปเราได้แวะชมสะพานมังกร ที่เป็นอีกหนึ่งแลนค์มาร์กของเมืองดานัง และก็ได้ไปซื้อของฝากที่ตลาดฮาน ตลาดที่นี่วัฒนธรรมของเขาก็ไม่ต่างจากของคนไทยเลย ทั้งวิธีการเรียกลูกค้า บางทีก็รู้สึกว่าเราอยู่ประเทศไทยแล้วรึป่าว ของที่ขายก็คล้ายๆ กัน ทั้งอาหาร เสื้อผ้า แต่พวกเสื้อผ้าแบรนด์เนมไม่ใช่ของแท้นะ ต้องระวังกันด้วย